วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

3 เมืองสวย

เพลินตาเพลินใจ 3 เมืองสวย พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์

พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ถ้าหากคุณลองเปิดแผนที่ประเทศดูจะเห็นว่าพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดมีอาณาเขตติดต่อกัน และแต่ละจังหวัดก็สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นขึ้นชื่อไม่ซ้ำกัน เป็น 3 เมืองที่น่าเที่ยวมากที่สุด ที่เราจะชวนทุกคนไปเที่ยวด้วยกันในครั้งนี้
หลายต่อครั้งได้เดินทางไปเที่ยว พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ทีละจังหวัด แต่ยังไม่เคยได้เที่ยวครบทั้งสามจังหวัดในทริปเดียวเหมือนครั้งนี้ จนกระทั่งมีโอกาสดีได้รับคำชวนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด และ นิตยสารท่องเที่ยวโวยาจ จัดทริปพิเศษไป เพลินบุญ เพลินตา เพลินใจ เติมความสุขและรอยยิ้มไปกับ เมืองไทย Smile club เดินทางท่องเที่ยวในเส้นทาง 3 จังหวัด พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แบบพร้อมเพรียง... เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปสัมผัสความสวยงามกันด้วยกันได้เลย

เพลินบุญ กับเส้นทางแห่งศรัทธา
จังหวัดแรกที่เราไปเยือน คือ พิจิตร เมืองชาละวันชื่อดังที่หลายคนรู้จักกันดี เราแวะเที่ยว วัดโพธิ์ประทับช้าง อ. โพธิ์ประทับช้าง สถารที่ประสูติสมเด็จพระศรีสรรเพ็ชร์ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีโบสถ์ศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประดิษฐานหลวงพ่อโต พระประธานศักดิ์สิทธิ์ ให้ทุกคนได้ไหว้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
พิจิตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบและน่าอยู่ เมื่อมาถึงเมืองแห่งนี้พลาดไม่ได้ที่ต้องแวะไปสักการะ หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของบ้านพิจิตร มาวัดนี้นอกจากทุกคนเพลินตาเพลินใจกับความสวยงามของวัดที่อยู่ติดริมน้ำ และได้ทำบุญจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว หากมาเที่ยวในช่วงต้นเดือนกันยายน บริเวณหน้าวัดท่าหลวงจะมีงานแข่งเรือยาวของฝีพายจากทั่วสารทิศ เทศกาลแข่งเรือยาวของเมืองนี้มีชื่อโด่งดังไปทั่วประเทศ ใครที่ชอบชม ชอบเชียร์กีฬาเรือยาว พลาดไม่ได้กับกิจกรรมสนุกๆ นี้
แวะทำบุญที่เมืองชาลวันกันอิ่มใจแล้ว ก็มุ่งหน้าไปเมืองสองแคว พิษณุโลก ไปกราบพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร วัดนี้ชาวพิษณุโลกเรียกกันว่าวัดใหญ่ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศมากราบสักการะขอพรกันตลอดทั้งวัน พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศ ไหว้พระเสร็จรอบวัดยังมีของฝากมากมายให้เลือกอุดหนุน มาวัดนี้วัดเดียวได้ทั้งบุญ และของฝากกันไปฝากเพื่อนแบบครบครันจริงๆ

เพลินใจกับธรรมชาติ
พิษณุโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติมากมาย เช้าวันนี้เราเดินทางออกนอกเมืองพิษณุโลก ไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางอุดมการณ์ของชนชาติ ไทยที่สำคัญในอดีต อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อสามจังหวัด คือ พื้นที่อำเภอด่านซ้าย ของจังหวัดเลย พื้นที่อำเภอนครไทย ของจังหวัดพิษณุโลก และพื้นที่อำเภอหล่มสัก ของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ถือเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย และมีสถานที่ท่องเที่ยวงดงามมากมาย อาทิ
ลานหินแตก ลานหินขนาดใหญ่กินอาณาบริเวณ กว้างขวางถึง 40 ไร่ ลักษณะของลานหินเสมือนรอยแตกเป็นแนวร่องเหมือนแผ่นดินที่แยกออกจากกัน สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลกในอดีต บริเวณลานหินแตกยังถูกปกคลุมไปด้วยพืชตระกูลมอส ไลเคน ตะไคร่ เฟิร์น ต้นกระดุมเงิน ดอกไม้ป่า และกล้วยไม้สีสันสดสวยแปลกตามากมาย ให้ชมผลัดเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาล
จากนั้นพวกเราเดินทางไปเที่ยว ลานหินปุ่ม ลักษณะคล้ายกับลานหินแตก แต่แปลกประหลาดที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คือ ไม่ได้แตกเป็นร่องลึกแต่นูนโค้งเป็นทรงกลมบ้าง ครึ่งวงกลมบ้าง ไม่ก็รีเรียวบิดเบี้ยวบ้าง สันนิษฐานว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหินมาเป็นระยะเวลานับพันนับหมื่นปี แล้ว ลานหินปุ่มตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร ทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผา ลมพัดเย็นสบาย มองลงไปเป็นผืนป่ากว้างสุดสายตา เหมาะสำหรับการหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบรรยากาศยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินถือว่าเป็นช่วงที่สวยช่วง หนึ่งของที่นี่เลยก็ว่าได้
ห่างออกจากลานหินปุ่มอีกเพียง 500 เมตร เป็นที่ตั้งของ ผาชูธง ลักษณะป็นเพิงผาสูงชัน สามารถมองทิวทัศน์บริเวณโดยรอบได้เกือบ 360 องศา เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งที่เหมาะสำหรับการมานั่งรอชมบรรยากาศอาทิตย์ ลับขอบฟ้าในอดีตเคยเป็นสถานที่ที่กลุ่ม ผกค. ขึ้นไปชูธงแดงรูปค้อนเคียวทุกครั้งที่ทำการรบชนะฝ่ายรัฐบาล ปัจจุบันทางอุทยานฯ ได้นำธงชาติไทยขึ้นไปปักปันไว้แทน นอกจากนี้ ภายในบริเวณอุทยานฯ ยังประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์การสู้รบ, โรงเรียนการเมืองการทหาร, กังหันน้ำ, สำนักอำนาจรัฐ, โรงพยาบาลรัฐ, ลานอเนกประสงค์, สุสาน ทปท., ที่หลบภัยทางอากาศ และหมู่บ้านมวลชน เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้สนใจมาศึกษาการสู้รบและแนวคิดทางอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันระหว่างคนไทยด้วยกันเองในอดีต
อิ่มเอมกับความสวยงามของธรรมชาติ และอากาศแสนบริสุทธิ์แล้ว ก็ได้เวลาไปเพลินพิศความงามของเมืองเพชรบูรณ์กันต่อ เราออกเดินทางสู่ เขาค้อ เมืองท่องเที่ยวสุดแสนชิลล์และอากาศเย็นสบายไม่ต่างจากเมืองในขุนเขาทางภาคเหนือ
 
แวะไหว้ พระธาตุผาซ่อนแก้ว ชมความงดงามของเดจีย์สีเหลืองทองอร่ามที่เห็นโดดเด่นจับตามาแต่ไกล มาที่นี่นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนเงียบสงบของสถานที่ ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมแล้ว เรายังได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุเพื่อเป็นสิริมงคลของชีวิตอีกด้วย

เพลินตา ด้วยทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม
เข้าที่พักนอนหลับฝันดี ตื่นมาทักทายชมทะเลหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งยามเช้า ก็ออกไปเพลินตาและเพลินบุญ แวะสักการะ พระบรมธาตุกาญจนาภิเษก เพื่อเป็นสิริมงคลอีกแห่ง และเข้าชม ฐานอิทธิและอนุสรณ์สถานผู้เสียสละ สถานที่แสดงเรื่องราวสมรภูมิเขาค้อในสนามรบจริง แล้วไปอุดหนุนของฝากที่ ไร่กำนันจุล เลือกซื้อของฝากสินค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมากมาย อาทิ สละ มะขามหวาน ฯลฯ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ แบบชิลล์ๆ
พวกเราที่ไปเทียวด้วยกันในทริปนี้ต่างลงความเห็นกันว่า เป็นทริปเพลินบุญ เพลินตา เพลินใจ ที่สนุกและประทับใจที่สุดอีกทริปหนึ่งเลยละ


ที่มา  :  http://travel.sanook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น